8 ม.ค. 68 ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 6 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ที่ผ่านมามีวาระพิจารณาและลงมติ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ (ร่าง พ.ร.บ.ชาติพันธุ์) ในวาระที่ 2 เพื่อให้ที่ประชุมสภาฯ ลงมติว่าจะเห็นชอบร่างกฎหมายที่หรือไม่ ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่มีข้อถกเถียงมากที่สุดเรื่องหนึ่งในการประชุมสภาฯ คือ มาตรา 3 ที่มีการนิยามคำว่า "ชนเผ่าพื้นเมือง" (Indigenous People) โดยฝ่ายรัฐบาลที่สนับสนุนให้ตัดคำว่า "ชนเผ่าพื้นเมือง"
อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.รวมไทยสร้างชาติ ลุกขึ้นอภิปราย ว่าในประเทศไทย คนเผ่าไทยอยู่ตรงนี้รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย พี่น้องที่อยู่ตามชายขอบเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติเคารพทุกกลุ่ม และการออกกฎหมายฉบับนี้เพื่อคุ้มครองสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่มีใครอยากเป็นชนเผ่า ทุกคนอยากมีบัตรประชาชน และประเทศไทยมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ เราไม่ปฏิเสธกลุ่มชาติพันธุ์ เราคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ผ่านกฎหมายฉบับนี้
ที่ตนสนับสนุนให้ตัดคำว่า ‘ชนเผ่าพื้นเมือง’ ออกไป เนื่องจากไทยลงนามในปฏิญญาชนเผ่าพื้นเมือง UNDRIP ซึ่งในปฏิญญาดังกล่าวระบุถึงสิทธิการปกครองตนเอง นี่เป็นปัญหาด้านความมั่นคงของประเทศ การออกกฎหมายฉบับนี้เพื่อคุ้มครองสิทธิกลุ่มชาติพันธุ์ ให้ได้เข้าถึงสิทธิทุกอย่างที่ต้องการ 100% ไม่ขาดตกบกพร่อง
ก่อนปิดท้ายข้อกังวลว่า หากยังมีคำว่า ‘ชนเผ่าพื้นเมือง’ ใน พ.ร.บ. วันหนึ่งอาจส่งผลกระทบเหมือนกับในปัญหาภาคใต้ที่มีคนแยกไปปกครองตนเองอย่างที่ฝ่ายความมั่นคงกังวล
ชลน่าน ศรีแก้ว สส.พรรคเพื่อไทย กล่าว ที่ตนไม่เห็นด้วยกับการมีคำว่า ‘ชนเผ่าพื้นเมือง’ เพราะในรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 70 ไม่มีคำว่า ‘ชนเผ่าพื้นเมือง’ เพราะฉะนั้นการบัญญัติกฎหมายต่างๆ โดยมีคำว่า ‘ชนเผ่าพื้นเมือง’ เป็นไปไม่ได้ รัฐธรรมนูญเขียนเฉพาะ ‘ชาติพันธุ์’
ชลน่าน เสนอ ให้ต้องไปแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน และค่อยไปออกกฎหมายระดับรองลงมา
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)