วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศเป็นวันเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศไทย โดยการเลือกครั้งนี้จะเป็นการเลือก นายก อบจ.จำนวน 47 จังหวัด และการเลือกสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ที่จะเลือกพร้อมกันทั่วประเทศทั้ง 76 จังหวัด

ในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นเดือนหน้า พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครลง “ในนามพรรค” 15 จังหวัด และ “ในนามสมาชิกพรรค” 1 จังหวัด คือ เชียงใหม่

ทางด้านพรรคประชาชนส่งผู้สมัครในนามพรรคทั้งหมด 17 จังหวัด (เดิมเคยแถลงข่าวว่า 18 จังหวัด แต่ถอนตัวออกไปหนึ่งคน)

มีอยู่ 5 จังหวัดที่เป็นการแข่งขันกันระหว่างเครือข่ายแดงและส้ม ประชาไทรวบรวมข้อมูลแต่ละสนามไว้ดังนี้

เชียงใหม่

• พิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ “สว.ก๊อง” อดีตนายก อบจ. ที่ลงสมัครรักษาเก้าอี้ “ในนามสมาชิกพรรค”
• พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ อดีต ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ลง “ในนามพรรคประชาชน”

ปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงให้ สว.ก๊อง พร้อมพูดโยงไปถึงเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าว่า ตนขอ สส.คืนจากคนเชียงใหม่ สืบเนื่องจากที่การเลือกตั้ง สส. ครั้งที่แล้ว เพื่อไทยเหลือ สส. เพียง 2 ที่นั่ง จากที่พรรคประชาชน (ก้าวไกลเดิม) กวาด สส.ไปถึง 7 คน จากทั้งหมด 10 เขต

ในช่วงเดียวกับที่ทักษิณลงพื้นที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็เดินตลาดอ้อนขอคะแนนเสียงให้พันธุ์อาจ

ย้อนไปในการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ เมื่อปี 2563 สว.ก๊อง ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ได้ 421,679 คะแนน เอาชนะ “บุญเลิศ บูรณุปกรณ์” จากกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ที่ได้ 353,189 คะแนน

แต่การเลือกตั้งคราวนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน เพราะว่าพรรคส้มได้แรงสนับสนุนจาก ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ที่ลาออกจากพรรคภายหลังการตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ต่อมาเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน แม้ว่าทัศนีย์จะไม่ได้ร่วมทีมกับพันธุ์อาจ แต่ก็ยินดีให้คำปรึกษา และตระกูลบูรณุปกรณ์ก็ไม่ได้ส่งตัวแทนลงแข่งในสนามนี้ด้วย

ลำพูน

• อนุสรณ์ วงศ์วรรณ ลงชิง “ในนามพรรคเพื่อไทย” – แชมป์เก่าและอดีต สส.ลำพูน 4 สมัย ทายาท “พ่อเลี้ยงณรงค์” 
• วีระเดช ภู่พิสิฐ หรือ “โกเฮง” ลง “ในนามพรรคประชาชน” — ทายาท “โกเก๊า” ประเสริฐ ภู่พิสิฐ อดีตนายก อบจ.ลำพูน และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดลำพูน

มุกดาหาร

• พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ แชมป์เก่าที่เคยลงในนามพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งเมื่อปลายปี 2563 แต่ครั้งนี้ลงในนาม “กลุ่มอิสระ”
• บุญฐิน ประทุมลี อดีต สส.มุกดาหาร เขต 2 ลง “ในนามพรรคเพื่อไทย”
• สุพจน์ สุอริยพงษ์ หรือ “ทนายเล็ก” ลง “ในนามพรรคประชาชน”
• คมสัน ไชยต้นเทือก ลงสมัครในนามอิสระ
• วีระพงษ์ ทองผา อดีตรองเลขาธิการ ส.ก.ส.ค.และประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมุกดาหาร จำกัด และยังเป็นพี่ชาย ของ วิริยะ ทองผา สส.มุกดาหาร พลังประชารัฐ

นนทบุรี

• พ.ต.ท.ธงชัย เย็นประเสริฐ แชมป์เก่านายก อบจ.นนทบุรี 4 สมัย ลงสมัครในนามกลุ่มผึ้งหลวง คมชัดลึกและกรุงเทพธุรกิจรายงานว่า เขามีเครือข่ายบ้านใหญ่จากหลายพรรคการเมืองให้การสนับสนุน
• เลิศมงคล วราเวณุชย์ อดีตนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ นนทบุรี ลง “ในนามพรรคประชาชน”
• พิมพร ชูรอด

ปราจีนบุรี

• ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ “สจ.จอย” ลง “ในนามพรรคเพื่อไทย”
• จำรูญ สวยดี — นักเคลื่อนไหวภาคประชาชน นักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม ลง “ในนามพรรคประชาชน”
• อำไพ กองมณี อดีต สส.บัญชีรายชื่อปราจีนบุรี พรรคเสรีรวมไทย ลงในนามอิสระ
• กฤษณ์กมล แพงศรี อดีตผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรี พรรคเพื่อไทย

ศึกนายก อบจ.ปราจีนบุรี ถูกจับตามองเป็นพิเศษ ภายหลัง “สจ.โต้ง” ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ เจอใบสั่งสังหารโหดภายในบ้านพักของ โกทร-สุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ. ปราจีนบุรี หลายสมัย โดยเงื่อนปมมาจากการที่ “สจ.โต้ง” ต้องการส่ง “สจ.จอย” ภรรยา ลงชิงตำแหน่ง นายก อบจ.

อย่างไรก็ตาม แม้ “สจ.โต้ง” เสียชีวิตไป แต่ “สจ.จอย” ได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย ให้ลงสมัครนายก อบจ. ปราจีนบุรี ในนามพรรคเพื่อไทย โดย “สจ.จอย”

ความเคลื่อนไหวฝั่งพรรคประชาชน ในช่วงวันหยุดปีใหม่ พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียง พร้อม จำรูญ และผู้สมัคร ส.อบจ. เดินแจกแผ่นพับแนะนำผู้สมัครที่ตลาดสดพระปรงและตลาดสดทิปท็อปกบินทร์บุรี เดินเท้าแจกโบรชัวร์แนะนำตัวผู้สมัคร

โดยจำรูญได้แนะนำนโยบาย อาทิ การให้บริการประชาชนในเขตชุมชนขนาดใหญ่ แหล่งนิคมอุตสาหกรรมหนองกี่ อ.กบินทร์บุรี หรือ ย่านนิคมอุตสาหกรรม 304 อ.ศรีมหาโพธิ, มีศูนย์บริการทางการแพทย์เมื่อเจ็บป่วยไม่ต้องแออัด, การจัดบริการเดินรถเมล์เพื่อการคมนาคม และการบริการน้ำประปาสะอาดดื่มได้

ทั้งนี้ จังหวัดที่มีการเลือกตั้งนายก อบจ. ไปแล้ว และเป็นการแข่งกันของแดง-ส้ม คือ อุดรธานี และ อุบลราชธานี ผลคือคนจากฝั่งเพื่อไทยยังคงรักษาแชมป์ไว้ได้ทั้ง 2 สนาม