เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา ประชาไทจัดเสวนา ‘เจรจาสันติภาพ 20 ปีชายแดนใต้ หรือจะเป็นได้แค่คนคุย’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์เสวนา ‘ประเทศไทยในรอบ 20 ปี’ ในวาระครบรอบ 20 ปี ก่อตั้งสำนักข่าวประชาไท ร่วมเสวนาโดย เพชรดาว โต๊ะมีนา อดีต สส.ภูมิใจไทยและหลานของ "หะยีสุหลง", พลเทพ ธนโกเศศ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และเป็นอดีตทีมเทคนิคในการพูดคุยสันติสุข และมูฮำหมัด ดือราแม ผู้สื่อข่าวเกาะติดประเด็นสันติภาพชายแดนใต้ ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
พลเทพ ธนโกเศศ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า เหตุการณ์ตากใบพิสูจน์แล้วว่าคนไทยไม่ได้ลืมง่ายผ่านมากว่า 20 ปี เหตุการณ์ตากใบยังคงไม่ถูกลืม หลังจากคดีตากใบหมดอายุความลงไปย่อมต้องมีเรื่องทางจิตใจและความรู้สึกของผู้คนตามมาเมื่อกระบวนการทางกฎหมายสิ้นสุดลง แต่กระบวนการจัดการกับอดีตยังมีกลไกรูปแบบอื่นที่สามารถกระทำได้ ทั้งการเยียวยาทางจิตใจและการให้ความมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุซ้ำ ส่วนเรื่องเหตุการณ์ความไม่สงบหลังจากนี้ ฝ่ายความมั่นคงได้มีการเตรียมความพร้อมให้ความปลอดภัยกับคนในพื้นที่แล้ว
ในส่วนของดุลอำนาจในการแก้ปัญหาชายแดนใต้ พลเทพมองว่ามีอยู่ 3 ส่วนด้วยกัน คือ 1. ดุลอำนาจในพื้นที่จากภาคส่วนต่างๆ ความต้องการวิถีชีวิตอัตลักษณ์วัฒนธรรมเช่นไร 2. เจตจํานงทางการเมือง (political will) ของรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้ารัฐบาลมีเจตจำนงที่เข้มแข็งในการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ จะสามารถจัดการกับข้อติดขัดทางกฎหมายหรืออุปสรรคต่างๆ ได้ และ 3. ฝ่ายนิติบัญญัติ หรือรัฐสภา สามารถเข้ามาช่วยในการแก้กฎหมาย ตรากฎหมาย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น และฝ่ายนิติบัญญัติยังเป็นจุดเชื่อมกับประชาชนในทุกพื้นที่ผ่านทาง สส. ที่เป็นตัวแทนของประชาชนในพื้นที่
"ถามว่าดุลอำนาจในการแก้ปัญหามันอยู่ตรงไหน ผมคิดว่ามันน่าจะแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นพื้นที่ ภาคส่วนต่างๆ ความต้องการวิถีชีวิตอัตลักษณ์วัฒนธรรมเช่นไร ส่วนที่สองเจตจํานงทางการเมือง (political will) ของรัฐบาลซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้ารัฐบาลมีเจตจำนงที่เข้มแข็งในการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้จะสามารถจัดการกับข้อติดขัดทางกฎหมายหรืออุปสรรคต่างๆ ได้ และส่วนที่สามฝ่ายนิติบัญญัติ หรือรัฐสภา สามารถเข้ามาช่วยในการแก้กฎหมายและฝ่ายนิติบัญญัติยังเป็นจุดเชื่อมกับประชาชนในทุกพื้นที่ผ่านทาง สส. ที่เป็นตัวแทนของประชาชนในพื้นที่" "ทั้งสามส่วนผมมองว่ามันต้องไปด้วยกัน แล้วก็เป็นจุดที่สำคัญเป็นอย่างมาก"
สุดท้ายพลเทพย้ำว่า การเปิดใจในการพูดคุยเจรจากันอีกเงื่อนไขสำคัญที่จะแก้ปัญหาได้ แต่ละฝ่ายต้องเปิดใจยอมรับความเห็นต่าง โดยไม่ลืมว่าโจทย์ใหญ่ของการพูดคุยคือเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ละฝ่ายอาจมีความกลัวที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการรักประเทศรักดินแดนของตัวเอง ฝ่ายที่มีหน้าที่เจรจาอาจต้องเปิดให้เห็นมากขึ้นว่าการรักประเทศไม่จำเป็นต้องเป็นรูปแบบเดียวกัน รัฐธรรมนูญเองก็ได้เขียนรองรับไว้อย่างเปิดกว้างสำหรับความแตกต่างหลากหลายตรงนี้อยู่แล้ว
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
![](https://live.staticflickr.com/65535/54112082548_401cad655c_k.jpg)
![สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท](https://img.pct.fyi/uploads/big/50cd36632778858506956587c3cd91f7.png)
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)